ทดสอบปรับความร้อนการซูวีกับไข่

มีโอกาสได้เจอ Youtube VDO ที่ทดสอบการปรับความร้อนของเครื่อง Sous Vide เพื่อให้เราได้เห็นว่าถ้าหากว่าเราปรับความร้อนเท่าใด แล้วจะได้ผลลัพธ์ของสภาพของไข่และเนื้อไข่ด้านในแต่ละอุณหภูมิออกมาเป็นอย่างไร โดยคุณสามารถกดดู Youtube VDO ที่ฝังเอาไว้ที่หน้าเว็ปนี้ได้ด้านล่างนี้

จะเห็นได้ว่าการทดสอบนี้้จะเน้นที่การทำ Sous Vide ที่ระยะเวลา 1 ชั่วโมงเป็นหลัก แต่ความเป็นจริงแล้ว ถ้าหากว่าคุณมีเครื่อง Sous Vide คุณอาจจะเลือกระยะเวลาให้น้อยลงได้ โดยเพิ่มอุณหภูมิอีกสักเล็กน้อยก็ทำได้เช่นเดียวกัน เพื่อประหยัดเวลาในการทำ Sous Vide เพราะ ส่วนตัวแล้ว เคยทำการทดสอบทำไข่ออนเซ็นด้วยระยะเวลาประมาณ​ 45 นาทีก็ได้ผลลัพธ์ออกมาดีแล้วเช่นเดียวกัน

เพิ่มเดิมอีกสักเล็กน้อยเพื่อป้องกันการไข่แตกหรือมีรอยแตกตอนที่เอาเข้าเครื่อง Sous Vide แนะนำให้ใช้ไข่ ณ อุณหภูมิห้องจะมีโอกาสแตกของไข่น้อยกว่า ไข่ที่เอาไปแช่เย็นมา แต่ว่าการแช่เย็นก็จะไม่ได้มีผลต่อผลลัพธ์ของเนื้อไข่แต่อย่างใด เพราะ เครื่องซูวี หากว่าเริ่มต้นด้วยไข่ที่อุณหภูมิเท่านั้นทุกฟองก็จะให้ได้ผลลัพธ์ของความสุกที่แน่นอนเหมือนกันหมด มันจะปรับความร้อนไปถึงระดับที่เรากำหนดเอาไว้อยู่ดี ไม่ว่ามันจะเริ่มที่ความเย็นของไข่ในห้องเย็น หรือ จะเริ่ม ณ ความร้อนของอุณหภูมิห้องปกติก็ตามที

ขนาดของไข่ถ้าหากว่าใหญ่มากๆ ก็แนะนำให้ใช้ความระยะเวลา 1 ชั่วโมงน่าจะเหมาะสมกว่า แต่ถ้าหากว่าไข่ที่คุณใช้เป็นไข่เล็ก 45 นาทีก็น่าจะเพียงพอที่จะทำให้ไข่มีความร้อนทั่วถึงทั้งก้อนได้แล้ว การทำไข่ซูวี หรือไข่ออนเซ็นยังมีข้อแนะนำเพิ่มเติมอีกก็คือ เมื่อเอาไข่ออกมาจากเครื่องซูวีแล้ว อยากจะมันหยุดสุกแล้ว ก็ให้เอาไปแช่ในน้ำแข็งทันที (ที่เราจะเรียกกับว่าช็อคเย็น หรือน็อคเย็น ในน้ำแข็งที่ใส่น้ำเข้าไปเป็น 70% ของปริมาณทั้งหมด) เมื่อคุณทำเสร็จแล้ว คุณสามารถเก็บไข่ในช่องแช่เย็นธรรมดาได้อีกหลายวันเลย เพื่อทยอยเอามาใช้งานต่อไป

วิธีการทำ Sous Vide กับไข่แบบนี้เหมาะกับร้านอาหาร เพื่อเอาไปสร้างสรร เมนูอาหารเช่น benedict eggs หรือไข่ออนเซ็น หรือเอาไปใส่แซนวิสเป็นเมนู onsen-egg sandwich  ก็ได้เช่นเดียวกัน หรือ ใช้เพื่อการทำตลาด เช่น บางร้านอาหารบอกว่า ไข่ 64’c เพื่อแสดงถึงความพิถีพิถันในการที่ได้มาซึ่งไข่ฟองนี้ว่า มันใช้ระดับความร้อนที่แม่นยำมากๆเพื่อทำอาหารเมนูนั้นๆออกมา เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างไม่น่าเชื่อเลย ! ลองใช้วิธีการนี้ดูกับการใช้เครื่องซูวีเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการโฆษณา